หัดบิน

"เกิดมาเป็นนกก็ต้องบิน
เพื่อการหากินและศักดิ์ศรี
อ่อนวัยจำเป็นจะต้องมี
นกใหญ่คอยสอน

เจ้ายังเด็กนักถ้าหักโหม
ท่ามกลางฝนลมจะเปียกปอน
อยู่รังฟังคำอย่าแง่งอน
โตก่อนจึงค่อยบิน"

(เพลงพี่จุ้ยใช่ไหมเอ่ย)

ตอนที่เอนท์ติดใหม่ๆชอบร้องเพลงนี้มาก
ร้องอยู่คนเดียว ไม่รู้เพื่อนๆจะรู้จักด้วยไหม เพราะเริ่มรู้สึกแล้วว่า
เราฟังเพลงไม่ค่อยเหมือนเพื่อน ซาบซึ้งกับสิ่งที่ต่างจากคนอื่น
บางทีก็ดูเหมือนจะย้อนยุค
แต่ก็ไม่รู้ว่าย้อนไปยุคไหน :P

บางทีดูหมือนจะเป็นตัวของตัวเอง
แต่สมัยนั้นน่ะ รู้ด้วยเหรอว่า ตัวเองมีสไตล์เป็นแบบไหน

พอรวมๆแล้ว ก็เลยกลายเป็นคนที่ดูเหมือนจะมั่นใจแต่ที่จริงแล้วก็ไม่มั่นใจในตัวเองเลย

ไม่มั่นใจซะจน..ไม่รู้ว่าจะรวมกลุ่มกับเพื่อนที่เค้านั่งอยู่ใต้ถุนคณะได้ยังไง
ไม่รุ้จะเปิดปากสนทนาว่าอะไร

ไม่รู้จะชวนใครไปไหน หรือถ้าใครชวนเราแล้วที่ๆเค้าไปคือที่ไหน (ที่ไหนหว่า ไม่รุจัก)
เด็กบ้านนอกจะเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่านะ? หรือเป็นเฉพาะคนที่..บ้านนอก แล้วไม่พอ
ยังไม่เคยกลับบ้านหลัง 5 โมงเย็นอีก

จำได้ว่า มารู้จักชื่อโรงเรียน กรุงเทพคริสเตียน สวนกุหลาบ เตรียมอุดม เอาก็ที่ใต้ถุนคณะนี่เอง
ไม่สิ สวนกุหลาบนี่มารุ้จักเอาปีสองที่ชมรมด้วยซ้ำไป

ก็สมัยเรียนหนังสือน่ะ เราใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องสมุด
ดีที่อาจารย์แนะแนว บอกให้เรียนนิเทศ จะได้รู้จักอย่างอื่นบ้างนอกจากต้นไม้กับหนังสือ :)

เอ บทความนี้มันเกี่ยวอะไรกับเพลงเปิดล่ะ?
ก็จำได้ว่าตอนเริ่มเรียนใหม่ๆ ได้ยินเพลงนี้
มันไม่ได้กำลังดังหรอก ไปเปิดให้ใครฟัง เค้าก็คงจำไม่ได้
แต่เราจำได้ เพราะในความรู้สึกของคนที่เคว้งคว้าง
ห่างทั้งบ้าน ทั้งสิ่งคุ้นชิน
เดินมาสู่ที่ๆไม่มีอะไรเลย นอกจาก โต๊ะควาย ใต้ถุน และควันบุหรี่
 (ใครอยู่ข้างในหว่า มองไม่เห็น 55)
เพลงนี้ มันช่วยทำให้คนที่อยู่ในฐานะลูกนกตัวน้อยๆ รู้สึกเชื่อมั่นขึ้นมาว่า
เราคงยังพอจะมี พ่อนก แม่นก พี่นก โค-ตะ-ระ-นก คอยปกป้อง ขี้แนะ สั่งสอนเราอยู่หรอกกระมัง
ใต้ควันบุหรี่สีเทาขมุกขมัว มันอาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด

ในคำพูดทักทายหยอกล้อรุนแรง เสียดแทงความรู้สึกแบบที่บ้านเราเค้าไม่พูดกัน (ไม่ได้ว่าใคร สาบาน)
มันก็อาจจะมีความปรารถนาดีแฝงอยู่ก็ได้นะ
ก็คงต้องลองดูสักตั้ง พยายามดูสักนิด ผิดพลาดพลั้งไป
ผู้คนใต้ควันสีเทาคงจะไม่ซ้ำเติมเราหรอกกระมัง
เอากับเค้าซะหน่อยน่า...

@^__^@

โตขึ้น เราจะได้กล้าบินไงล่ะ :)

ความคิดเห็น